ถึงกับน้ำตาตก!! รักแท้ 11 ปี แพ้พริตตี้ 11 วัน ออกมาแฉวีรกรรมสุดแสบ!!
นับไปตั้งแต่สมัยเรียน ปี 2548 นานไปนิดนึงนะ เราสองคนเรียนคณะเดียวกัน แฟนเก่าเป็นรุ่นน้อง 1 ปี เป็นน้องรหัสของเพื่อนสนิท เพื่อนแนะนำให้รู้จักกัน แรกๆก้อเจอกันบ้าง แต่ไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย แค่รู้สึกว่าคนนี้หน้าตารูปร่างผิวถูกชะตาดี จนผ่านเชียร์คณะเสร็จ เพื่อนเลยนัดรวมกลุ่มกันเพื่อแชร์เลี้ยงน้องรหัสกัน พองานเลี้ยงเลิก ก้อมีการแลกเบอร์กันนิดหน่อย แรกๆเค้าก้อแค่ส่งข้อความมาหา “ตั้งใจอ่านหนังสือนะ สู้ๆ GetA” สักเดือนนึงจากที่เคยส่งข้อความมา ก้อเปลี่ยนเป็นชอบโทรมาชวนคุยไปเรื่อยๆ แรกๆเราก้อไม่คิดว่ามาจีบหรอก นึกว่าชวนคุยเล่น ตามประสาวัยรุ่น ระยะนึงเค้าก้อบอกว่าขอจีบเราได้ป่าว เราก้ออึ้งไป เพราะช่วงนั้นเราก้อมีคนคุยอยู่ด้วย 2 คน แต่ก้อยังไม่ได้เป็นแฟนกับใคร เพราะอยากโฟกัสที่เรื่องเรียนก่อน พอเค้าบอกว่าขอจีบ เราก้อหายจากเค้าไปเลย 1 เดือน โทรมาไม่รับ ไม่โทรกลับ วันละ 40 สาย จนบางทีทิ้งมือถือไว้ที่ห้องเลย รู้สึกรำคาญมาก sms มาวันละหลายครั้ง เราก้อไม่เคยส่งกลับ ยิ่งเค้าทำตัวแบบนี้เราก้อยิ่งหลบ ไม่อยากเจอหน้าเลย บางวันมานั่งดักรอที่หน้าหอในหอพักหญิง เราก้อขับมอไซด์ผ่านสวยๆทำเนียนมองไม่เหน เสาร์อาทิตย์เค้าก้อจะเอาของโปรดเรามาฝากไว้ให้ที่ป้อมยาม แล้ว sms มาบอกว่าลงไปเอาของโปรดมาทานด้วยนะ เลิกพฤติกรรมไม่โทรจิกเลย ทำแบบนี้ร่วมเดือนได้ มีวันนึงเราไปวิ่งที่สนามกีฬาบังเอิญเจอกัน เลยคุยๆ ขอบคุณสำหรับของกินที่ฝากไว้ให้ รู้สึกถูกชะตามากขึ้น รู้สึกเค้าดูดีหล่อขึ้น รักษาสุขภาพเหมือนกัน เลยเริ่มคุยกับเค้าคนเดียว เหมือนเปิดใจอ่ะ
หลังจากนั้น 3 เดือน ก้อเริ่มคบหากันในฐานะแฟน
– ทุกเช้าเค้าจะโทรปลุกไปเรียน เพราะเราชอบนอนตื่นสาย ทำแบบนี้ทุกวัน
– ตอนเย็นพาไปออกกำลังกาย พากินข้าว ส่งกลับหอ
– ก่อนนอนก้อ sms มาหาทุกวัน
– เสาร์อาทิตย์ เราตื่นสาย เค้าก้อจะเอาอาหาร ยำผักบุ้งกรอบร้านดัง ชาเขียว ลิ้นจี่ ทุเรียน มาฝากไว้ที่ป้อมยามให้ ตื่นมาก้อลงไปเอามากินพร้อมเพื่อนๆ ตอนเย็นเค้าก้อจะมารับชวนไปเดินตลาดนัดขายของในมอ อยากได้อะไรที่น่ารักเค้าก้อจะซื้อให้หมด ออกให้หมด ถือให้ด้วย เป็นแบบนี้มาเป็นปีๆ ก้อมีความสุขดี แบบไม่ได้โหยหาหรือคุยกับคนอื่น ก้อหยุดที่เค้า เพราะเป็นคนชอบคบเป็นคนๆไป
เราเคยผ่านทุกข์ผ่านสุขด้วยกันมาเยอะ เรียกว่าเกือบตายด้วยกันมาก้อมี ตอนเราเรียนปี 3 ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ ฝนตกพรำๆในมอ ตอนเย็นเค้ามารับไปทานข้าว ซื้อขนม แล้วขับรถมาส่งที่โรงอาหาร เพื่อเราจะได้ติวกับเพื่อน ระหว่างทางมีรถยนต์สวนมา ประสานงานกับมอไซด์ เราตัวลอยตกลงมาหัวฟาดพื้นกระโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง ส่วนเค้าขาหักนิ้วก้อยหัก หนักถึงขั้นว่ามอไซด์คันนั้นเครื่องพังแตก ใช้ไม่ได้อีกเลย เราก้อไม่ได้ไปสอบ พักฟื้นเกือบเดือน ทรงตัวเดินไม่ได้เลย ทานอะไรก้ออ้วกออกมาหมด ผอมลงมาก อาจารย์หมอก้อบอกว่าเป็นคนที่โชคดีมาก อีกนิดเดียวถึงจุดสำคัญ อาจเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ หลังจากเกิดเหตุ พ่อเราก้อมาเยี่ยม พ่อด่าเค้าสารพัด โดยส่วนตัวพ่อเป็นคนดุมาก ไม่อยากให้มีแฟน หวงมากเหมือนไข่ในหิน ขออะไรก้อให้ แต่พ่อจะขอกลับ ห้ามมีแฟน พอพ่อมาเจอว่าประสบอุบัติเหตุกับผู้ชาย พ่อก้อแทบจะไปกระทืบผู้ชาย ด้วยความกลัวหรือจิตใต้สำนึกแห่งความหลงรึเปล่าไม่รุ้ เค้าก้อตอบและสัญญากับพ่อว่า “จะรักและดูแลเราไปตลอดชีวิต” พ่อเสียชีวิตไปจากโรคมะเร็งปอดก่อนหน้าที่เราจะเลิกกัน 4 ปี ซึ่งไม่รุ้ว่าการสัญญาอะไรกับคนที่ตายไปแล้วมันน่ากลัวมากนะ คนตายไม่มีวันลืม สุดท้ายแล้วเราค่อยมาสอบซ่อมภายหลัง ดีที่มีเพื่อนดี เพื่อนก้อช่วยติว ผ่านปี 3 ได้
พอเรียนปีที่ 4 เค้าปีที่ 3 ถือเป็นปีที่เค้าลำบากมาก พ่อแม่เค้าไม่เข้าใจ ไม่ซื้อรถคันใหม่ให้ เราก้อใช้รถคันเดียวกัน แต่อยู่คนละหอ ห่างกันเกือบ 5 โล ต้องมาคอยรับส่งกัน เช้ามารับเรา เรียนเสร็จบางทีเราก้อต้องนั่งรอ มิหนำซ้ำพ่อแม่เค้าไม่เข้าใจถึงขนาดว่า ไม่ส่งเงินให้เรียนด้วย เลิกเรียนเราสองคน ต้องไปติดประกาศสอนพิเศษ เดินแจกใบปลิวที่โรงเรียนสาธิต หลังจากนั้นก้อมีงานสอน หลังเลิกเรียน เราสองคนต้องแบกกระดานไวท์บอร์ดไปรอเด็กนักเรียนที่นั่น ได้ค่าจ้างวันละ 280 บาท ยิ่งช่วงไหนช่วงสอบจะเหนื่อยมาก เราต้องรีบไปสอน กว่าจะได้กลับมาอ่านหนังสือเลือดตาแทบกระเด็น วิชาเรียนก้อมีแต่วิชายากโครตๆ เสาร์อาทิตย์ก้อต้องหาเงิน สอนพิเศษ ตั้งแต่ 09.00-16.00 น. พักแค่เที่ยง แยกกันสอน ได้คนละ 3 พันต่อวัน เก็บเงินช่วยกัน เพื่อเอาไปช่วยเค้าดาวน์มอไซด์ เพราะการมีรถคันเดียวลำบากมาก ไหนเค้าจะต้องเก็บค่าเทอมอีก ค่าหอ ค่าใช้จ่าย คือบ้านเค้าไม่ส่งเงินให้เลยตั้งแต่ ปี3 จนกระทั่งจบ เรียกว่าพอเป็นแฟนกันร่วมทุกข์มากกว่าร่วมสุขอีก ยังดีที่เราเป็นรุ่นพี่ เวลาช่วงสอบเราจะแยกชีทสำคัญไว้ให้ สอบเสร็จขีดๆที่ออกไว้ให้ เก็บเรียงๆไว้ พอเค้าสอบเค้าก้อเอามาอ่าน ก้อสามารถผ่านไปได้แบบสบายๆ ชีวิตเราสองคนลำบากด้วยกันมาแบบนี้จนจบ ถ้าเอาจริงๆเราก้อสบายนะ มีพ่อตามใจคอยส่งเงินให้ไม่ขาดมือ แต่เราสงสารและเห็นใจเค้า เราก้อคิดว่าชีวิตมันต้องท้าทาย อยากลำบากไปกับเค้า ไม่ให้เค้ารุ้สึกรันทดน้อยใจที่บ้าน คอยแบ่งเบาความทุกข์และเติมความสุขให้กัน ถือสะว่าเงินที่เราได้มาก้อเก็บไว้ไปเที่ยวกรุงเทพหรือซื้ออะไรก้อได้ มันน่าภูมิใจนะ พ่อส่งให้เดือนละ 6,000 แต่หาเงินเองได้เดือนละ 12,000 เวลาที่เราปิดเทอมเราก้อจะไปเที่ยวไกลๆสัก 3 วัน ก่อนเราจะกลับบ้านสักอาทิตย์ ค่อยกลับมาสอนพิเศษช่วงปิดเทอม ได้เดือนละเกือบ 30,000 เรยนะ เพราะเล่นสอนทุกวัน เหนื่อยมาก
พอเราจบเราก้อมาทำงานที่กรุงเทพ เค้าก้อเรียนปีสุดท้าย เค้าก้อจะนั่งรถทัวร์มาหาเราเดือนละครั้ง โดยเอาเงินเก็บจากสอนพิเศษ กิน เที่ยวห้าง จากเด็กต่างจังหวัดก้อมีความสุขอีกแบบ เงินเดือนเดือนแรกออก เราก้อแบ่งให้ที่บ้าน เค้าก้อมาร่วมฉลองด้วย เราก้อแบ่งเงินซื้อกางเกงยีนส์ให้เค้า เพราะเค้าไม่ค่อยมีเสื้อผ้า เดือนที่สองที่เราทำงานเค้าก้อมา เพราะเป็นวันเกิดเค้าด้วย เราก้อซื้อแมวให้เค้า 1 ตัว เค้าตั้งชื่อว่า “เบิร์ดเดย์” เค้าเป็นผู้ชายที่รักแมวและชอบแมวมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้แมวตัวนั้นจะไม่อยู่แล้วก้อตาม
พอเค้าเรียนจบ เค้าก้อมาทำงานที่เดียวกับเรา ปกติบริษัทจะไม่รับพนักงานที่เป็นแฟนกันมาทำงานที่เดียวกัน ตอนเค้ามาฝึกงาน เราก้อต้องทำเนียน ไม่สนิทกัน จนเค้าได้งานที่นั่นแล้ว สักพักเราถึงเริ่มคบก้นแบบเปิดเผย ตอนทำงานเราก้อช่วยกันเก็บเงิน จะด้วยวิธีไหนประหยัดได้เราเอาหมด เพราะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันว่าไม่อยากเป็นลูกจ้างนาน เหนื่อย กดดัน คนได้ดีก้อมักเป็นคนฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน คนขายผลงานอย่างเราไม่ค่อยได้ดีหรอก ตรง จริงใจเกินไป เสแสร้งไม่เก่ง เลียหัวหน้าก้อไม่เป็น
งานที่ทำสังกัดบริษัทเดียวกัน แต่คนละเขต เค้าเขตใต้ เราเขตตะวันตก จะได้เจอกัน ลืมบอกไป เป็นงานเกี่ยวกับการขาย เดือนนึงจะเจอกันวันเข้าทริป วันออกทริป ประมานอาทิตย์นึงได้ พอมีเงิน เราก้อสบาย กินหรูอยู่แพง เที่ยวสนุก แต่งตัวดี เพราะมีรายได้ดีเหมือนกัน
มีอะไรเค้าก้อจะชอบมาเล่าให้ฟังหมด ลูกค้าคนนี้เจ้าชู้มาก ชอบชวนไปอาบอบนวด ถ้าไม่ไปจะไม่สั่งของ ไม่ช่วยยอด เค้าเลยต้องไป แรกๆก้อไปนั่งรอ หลังๆก้อบังคับ แต่เค้าก้อปฎิเสธ ขอเป็นคนที่จ่ายให้ลูกค้า แต่ไม่ขอเข้าใช้บริการ ขอนั่งรอ กลัวติดโรค
พอครบ 3 ปี ความเฉื่อยในการทำงานก้อมากขึ้น เริ่มมีปากเสียงกับหัวหน้าเผด็จการ จนตอนหลังเค้าก้อโดนบีบออกจากงานก่อนเรา เราก้อเลยลงขันทำร้านกาแฟกับเค้าประมาน 700,000 เพราะเราสองคนชอบกินกาแฟมาก คิดว่ามาทำแล้วคงมีความสุข ถ้าไปได้ดี เราก้อจะออกมาทำด้วยกันเต็มตัวเรย ให้เค้าเป็นคนคุมร้าน ใช้เบอร์เค้าเป็นเบอร์ร้าน วันไหนที่เราว่างเราก้อจะไปนั่งและช่วยกันทำงาน
นี่แหละค่ะ จุดเริ่มต้นของหายนะกำลังจะเกิด
เปิดร้านกาแฟก้อเรียบๆ ไปได้เรื่อยๆ สัก 3 เดือน ก้อเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เราสังเกตุได้ว่ามีผู้หญิงหน้าเดิมๆ 3-4 คน มานั่งประจำ มาทุกวัน จนรุ้สึกผิดปกติ หลังๆไม่แค่มานั่ง มีโทรมาคุยเล่น มีไลน์คุยกัน พอเราเห็นเค้าก้อตอบว่าไม่มีอะไร
– หญิง พ มีลูกมีผัวแล้ว จะมานั่งที่ร้านเรา มาตั้งแต่เที่ยงถึงหกโมงเย็น พอตกเย็นก้อกลับบ้านหาลูก ขอจีบแฟนเก่าเรา ตื๊อสุดฤทธิ์ ไม่รุ้หนังหน้าทำด้วยอะไร คนสมัยนี้ ไม่มีจิตสำนึกถึงลูกผัวเลย
– หญิง อ1 ทำงานที่ศาลายา ชอบแฟนเรามาก ขอคบแบบไม่มีเงื่อนไข ทุกเย็นหลังเลิกงานก้อจะมานั่งที่ร้านประจำ
– หญิง ม มากินแล้วขอเบอร์ขอไลน์ จีบแบบออกนอกหน้า
– หญิง อ2 ชอบส่งรูปใส่ทูพีชมาอวดมายั่ว พูดประมานว่ามีไรกันได้นะ แบบไม่ต้องผูกมัด เราก้อมีแฟน เทอก้อมีแฟน เรามีอะไรกัน ต่างคนก้อต่างแยกย้าย กลับบ่นใครบ้านมัน คนสมัยนี้ เราแอบไปดูไลน์มันมา ปรี๊ดแตกมาก
หลังๆ พอเราเริ่มรู้ว่าเค้ามีคนอื่นเข้ามามากขึ้น มาคุยมาเซ้าซี้ ตัดสินใจปิดร้านกาแฟไปเลย เป็นคนเกลียดการทะเลาะ ช่วงนั้นทะเลาะกันทุกวัน เพราะเรื่องคนอื่นที่มาพัวพัน
Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon